💓สวัสดีทุกคนค่ะ กลับมาพบกันอีกแล้วนะคะ ครั้งนี้เราจะพาทุกคนไปสัมผัสกับความงามของ "ทะเลเจดีย์แห่งพุกาม" ที่ตั้งอยู่ในประเทศเมียนมาในปัจจุบัน ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นสถาปัตยกรรมโบราณที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก และเราจะพาทุกคนมาเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับดินแดนอารยธรรมที่มีเสน่ห์ของศิลปะและอาณาจักรพม่าแห่งนี้กัน ทุกคนพร้อมแล้วใช่ไหมคะ ตามมาดูกันได้เลยค่ะ
ทะเลเจดีย์แห่งพุกาม http://yesofcorsa.com/bagan-myanmar/ |
ก่อนอื่นขอเกริ่นที่มาของสถานที่แห่งนี้กันก่อนเลย "ทะเลเจดีย์แห่งพุกาม" แห่งนี้ ปัจจุบันตั้งอยู่ ณ เมืองพุกาม ประเทศเมียนมา ซึ่งแต่เดิมนั้นเมืองพุกามแห่งนี้อดีตเคยเป็นอาณาจักรพุกามที่รุ่งเรืองในสมัยก่อนเป็นอย่างมาก ที่มาของการสร้างทะเลเจดีย์เหล่านี้คือตั้งแต่สมัยพระเจ้าอนิรุทธิ์ หรือพระเจ้าอโนรธามังช่อ ซึ่งเป็นปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรพุกาม ตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ 16 โดยเจดีย์องค์แรกที่ได้ทรงให้สร้างขึ้นนั้นมีชื่อว่า "เจดีย์ชเวซิกอง" เหตุที่สร้างเจดีย์เหล่านี้ขึ้น เป็นเพราะสมัยแรกเริ่มของอาณาจักรพุกาม มีการนับถือพระพุทธศาสนาโดยมีความเชื่อทางไสยศาสตร์ควบคู่กันไปด้วย อีกทั้งหนังสือบางเล่มยังกล่าวว่ามีความเชื่อเกี่ยวกับการสร้างเจดีย์ว่าจะทำให้ได้รับบุญกุศลเป็นอย่างมาก
ทะเลเจดีย์แห่งพุกาม มีรูปแบบศิลปะเป็นศิลปะแบบพุกาม ที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะปาละของอินเดียโดยตรง เพราะมีพื้นที่ติดกับอาณาจักรปาละ-เสนะของอินเดีย แต่ถึงแม้รูปแบบศิลปะพุกามจะมาจากอิทธิพลของศิลปะปาละ แต่ถูกสร้างขึ้นภายใต้พุทธศาสนาเถรวาท ซึ่งแตกต่างจากศิลปะปาละที่สร้างขึ้นตามพุทธศาสนามหายานตันตระและศาสนาฮินดูไวษณพนิกาย โดยเจดีย์ศิลปะแบบพุกามเหล่านี้แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ เจดีย์ทรงระฆัง (Zedi) และเจติยวิหาร (Gu) โดยมีลักษณะ ดังนี้
เจดีย์ทรงระฆัง (Zedi) เป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ซึ่งสร้างขึ้นให้มีลักษณะและหมายถึง "สถูป" ที่ได้สืบทอดรูปแบบมาจากสถูปทรงกลมของศิลปะอินเดีย ส่วนที่มีความสำคัญและเป็นเอกลักษณ์ของเจดีย์ประเภทนี้คือ "องค์ระฆัง" ที่สร้างอยู่บนฐานสูง 3 ชั้น ยกตัวอย่างเจดีย์ทรงนี้ เช่น เจดีย์ชเวซิกอง ซึ่งเป็นเจดีย์ที่พระเจ้าอโนรธาโปรดฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระเขี้ยวแก้ว
เจดีย์ชเวซิกอง เป็นเจดีย์ทรงระฆัง http://www.uasean.com/kerobow01/508 |
เจติยวิหาร (Gu) เป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ประดิษฐานพระพุทธรูป เสมือนเป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้า โดยตัวอาคารเป็นการผสมผสานระหว่าง "วิหาร" (ห้องด้านล่าง) กับ "เจดีย์" (ส่วนบน) จึงถูกเรียกลักษณะอาคารแบบนี้ว่า "เจติยวิหาร" โดยส่วนห้องด้านล่างนั้นมีไว้สำหรับประดิษฐานพระพุทธรูป และส่วนบนคือส่วนยอด สร้างเป็นทรงศิขระ ประดับส่วนยอดสุดด้วยเจดีย์ โดยรูปแบบของเจติยวิหารในศิลปะพุกาม แบ่งออกได้เป็น 2 รูปแบบใหญ่ ๆ ได้แก่ แบบครรภคฤหะ-มณฑป ยกตัวอย่าง เช่น เจดีย์นาคยน และแบบมีแกนกลาง-มณฑป 4 ทิศ เช่น เจดีย์อานันทะ เป็นต้น นอกจากที่ได้ยกตัวอย่างมาแล้ว ยังมีเจดีย์แบบศิลปะพุกามอีกหลายแห่งที่น่าสนใจ
เจดีย์นาคยน เป็ยเจติยวิหาร ที่มีแผนผังแบบครรภคฤหะ-มณฑป http://www.sac.or.th/databases/seaarts/th/architectureth |
เจดีย์อานันทะ เป็นเจติยวิหาร แบบมีแกนกลาง-มณฑป 4 ทิศhttp://www.sac.or.th/databases/seaarts/th/architectureth |
ทะเลเจดีย์แห่งนี้นั้นแต่เดิมมีเจดีย์รวมกันมากถึง 4,446 องค์ แต่ปัจจุบันเหลือเจดีย์ที่คงสภาพอยู่เพียง 2,217 องค์ และเนื่องจากการเสื่อมอำนาจของกษัตริย์และการถูกชนชาติอื่นรุกราน ทำให้ปัจจุบันเหลือเจดีย์ที่มีสภาพสมบูรณ์มีจำนวนลดลง แต่ถึงอย่างนั้นปัจจุบันทะเลเจดีย์แห่งพุกามนี้ก็ยังมีเสน่ห์ที่ลึกลับชวนค้นหา โดยสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นหลักฐานบ่งบอกความเจริญรุ่งโรจน์ของอาณาจักรพุกามได้เป็นอย่างดี ซึ่งทางการประเทศเมียนมาตอนนี้กำลังดำเนินการเพื่อให้ได้ขึ้นเป็นมรดกโลกต่อไป
ภาพบอลลูนขึ้น จุดน่าสนใจของทะเลเจดีย์ https://www.tickettipper.nl/wp-content/uploads/2018/02/Myanmar |
ปัจจุบันมีผู้เดินทางจากทั่วโลกที่ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยว แสวงหาความงามศิวิไลของอาณาจักรเก่าแก่โบราณแห่งนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งจุดสนใจอีกอย่างของการไปดูทะเลเจดีย์แห่งนี้ก็คือ การได้ขึ้นบอลลูนสัมผัสบรรยากาศเหมือนความฝัน ที่จะพาทุกคนล่องลอยทวนกาลเวลา เที่ยวชมวิวอันงดงามของทะเลเจดีย์แห่งนี้ ใครที่สนใจและกำลังมองหาที่เที่ยวที่ใกล้ประเทศก็ละก็แนะนำสถานที่แห่งนี้เก็บเข้าลิสต์ไว้เลยล่ะค่ะ แพ็คกระเป๋าไปเที่ยวกันเถอะ! แล้วเจอกันต่อกับสถานที่ที่พิเศษในครั้งหน้านะคะ สำหรับครั้งนี้ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาชมมาก ๆ ค่ะ
✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈
✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈
อ้างอิงข้อมูล :
บังอร ปิยะพันธุ์. (2537). ประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (พิมพ์ครั้งที่ 1). (40).
พุกาม. ค้นหาจาก https://th.wikipedia.org/wiki/พุกาม. สืบค้นวันที่ 25 สิงหาคม 2561.
รศ.ดร.เชษฐ์ ติงสัญชลี. (2558). ประวัติศาสตร์ศิลปะอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้.
พุกาม. ค้นหาจาก https://th.wikipedia.org/wiki/พุกาม. สืบค้นวันที่ 25 สิงหาคม 2561.
รศ.ดร.เชษฐ์ ติงสัญชลี. (2558). ประวัติศาสตร์ศิลปะอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้.
(พิมพ์ครั้งที่ 1). (301-306).